การบำรุงผิวหน้าสำหรับผู้ชาย

การบำรุงผิวกับผู้ชาย ถ้าเป็นในสมัยก่อนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูนัก แต่ในปัจจุบันนั้นผู้ชายส่วนใหญ่ก็ได้หันมาให้ความสนใจกับผิวหน้ากันมากขึ้น แต่หากว่าก็ยังมีผู้ชายเป็นจำนวนมากที่ไม่รู้ขั้นตอนในการดูแลผิวหน้าอย่าง ถูกวิธี วันนี้เราเลยมี 4 ขั้นตอนง่ายๆ สำหรับการดูแลผิวหน้าที่ถูกวิธีมาแนะนำ

ขั้นแรก เป็นขั้นของการทำความสะอาดผิว หรือ ล้างหน้า – การล้างหน้านั้นถือเป็นสิ่งจำเป็นมากที่สุด เนื่องจากกิจวัตรของผู้ชายในแต่ละวันที่ทำให้ต้องเจอฝุ่นละอองและมลพิษจำนวน มาก หากการล้างหน้าไม่สะอาดนั้นก็อาจะทำให้เกิดปัญหาผิวต่างๆตามมา เช่น สิว ผิวอักเสบ ผิวแพ้ง่าย ดังนั้นการล้างหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆของการดูและผิว การล้างหน้าเราควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล เช่น ถ้าเป็นคนผิวมัน ควรเลือกเป็น เจลล้างหน้าเพื่อไม่ให้เกิดการอุดตันและก่อให้เกิดสิว ผิวแห้งก็ควรจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งตึง ไม่มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์ เนื่องจากผิวแห้งนั้นมีโอกาสสูงมากที่จะแพ้ง่ายมากกว่าคนผิวมัน

ขั้นที่สอง เป็นขั้นตอนของการปรับสภาพผิวเพื่อเตรียมรับการบำรุง การเตรียมสภาพผิวนั้นจะเป็นการเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ ซึ่งจะมีอยู่ 2ประเภทคือ ขจัดสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง น้ำมันส่วนเกิด ที่ตกค้างอยู่จากการล้างหน้า ซึ่งโทรเนอร์ประเภทนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีผิวมัน ผสม และธรรมดา โทนเนอร์แบบที่สองคือบำรุงผิว โทรเนอร์ชนิดนี้จะมีส่วนผสมของวิตามิน เกลือแร่ และสารให้ความชุ่มชื้น

ขั้นที่สาม ขั้นของการบำรุงผิว โดยปกติครีมบำรุงผิวนั้นจะมี 2 แบบคือ แบบกลางวันและกลางคืน แต่ในปัจจุบันก็ได้มีการพัฒนาครีมสำหรับผู้ชายที่ใช้ได้ทั้งกลางวันและกลาง คืนเป็นแบบออลอินวันไว้ในหลอดเดียว ซึ่งโดยปกติครีมบำรุงผิวนั้นจะเป็นการให้ความชุ่มชื้นกับผิวโดยผิวมันควรจะ ใช้ผลิตภัทณ์ที่มีลักษณะเป็นเจลบำรุงผิว

แนวโน้มของความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้ามจาดสุขภาพของผู้ชายในปัจจุบัน

13

ไลฟ์สไตล์ของผู้ชายไทยในปัจจุบันนั้นเมื่อเริ่มย่างเข้าสู่วัยทำงาน บทบาทความรับผิดชอบในตำแหน่งหน้าที่การงานก็มักจะมากขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะในสังคมที่เร่งรีบและมีการแข่งขันสูงนั้น มักทำให้เกิดความเครียดสะสม พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนดึก รับประทานอาหารแบบไม่ถูกสุขอนามัย ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพแบบสะสม จนเมื่อย่างเข้าสู่วัยสี่สิบปีขึ้นไป ซึ่งเป็นวัยที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของระบบฮอร์โมนในร่างกายที่อาจเริ่มลด ระดับลงไป เรียกว่า แอนโดรพอส คล้ายกับเพศหญิงในวัยที่จะหมดประจำเดือน

จากปัจจัยข้างต้นแม้ว่าจะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป อาจส่งผลทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และสมรรถภาพทางเพศซึ่งมักจะเป็นความรู้สึกที่บกพร่องในคุณภาพชีวิตไปหากไม่ มีทัศนคติ อื่นใด หรือพลังชีวิตใดที่ดีกว่าเข้ามาทดแทนได้ทัน แนวโน้มของความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้ามนั้นมีได้ตั้งแต่ที่พบบ่อยขึ้น คือ เรื่องมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งเป็นโรคฮิตติดอันดับหนึ่งของชาวอเมริกันและกลุ่มชาวยุโรป สแกนดิเนเวีย แต่ผู้ชายในแถบเอเชีย และในประเทศไทย ยังมีตัวเลขที่เป็นต่ำกว่าในต่างประเทศ ทั้งนี้ ต่อมลูกหมากเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งในระบบสืบพันธุ์ของเพศชาย โดยโรคที่มักพบในต่อมลูกหมากที่สำคัญมี 3 โรค ได้แก่

โรคต่อมลูกหมากโต ซึ่งพบได้ในเพศชายอายุตั้งแต่ 40 ปี โดยเฉพาะเข้าอายุ 50-60 ปี ต่อมลูกหมากที่โตขึ้นนี้ จะกดเบียดท่อปัสสาวะให้แคบลง ทำให้มีอาการปัสสาวะผิดปกติ เช่นปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืนหรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะขัด ใช้เวลาปัสสาวะนาน ไม่พุ่ง หรือออกเป็นหยดๆ มะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นโรคซึ่งพบในเพศชายอายุ 50 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่ในระยะแรกๆ มักไม่แสดงอาการหรืออาจจะมีอาการคล้ายโรคต่อมลูกหมากโต รวมทั้งปัสสาวะหรือน้ำอสุจิมีเลือดปน มะเร็งในระยะต้นสามารถตรวจพบได้เมื่อแพทย์ตรวจร่างกาย โดยสวมถุงมือคลำต่อมลูกหมากผ่านทางช่องทวารหนัก เมื่อมีการตรวจเช็กสุขภาพประจำปีและหรือตรวจเลือดร่วมด้วย เพื่อหาระดับของค่าพีเอสเอ ต่อมลูกหมากอักเสบ เป็นภาวะที่มีการอักเสบติดเชื้อแบคทีเรียของเนื้อต่อมลูกหมากรวมทั้งจาก เชื้อหนองในเทียม การอักเสบมักจะผ่านเข้าไปทางท่อปัสสาวะ ส่วนน้อย ผ่านทางกระแสเลือด บ่อยครั้งที่ตรวจไม่พบเชื้อใดๆ พบในกลุ่มอายุระหว่าง 30-40 ปีเป็นส่วนใหญ่

การดูแลสุขภาพเส้นผมสำหรับผู้ชาย

bed-headเส้นผมเป็นส่วนของผิวหนังซึ่งงอกออกมาจากต่อมสร้างผมทั่วศีรษะซึ่งจะเกิดขึ้นตลอดเวลา เมื่อระยะเวลาผ่านไป 3-10 ปี ต่อมสร้างผมนี้จะหยุดทำงาน ผมจึงหลุดร่วงออกจากราก เมื่อหยุดพัก 3 เดือนแล้ว ต่อมสร้างผมนั้นจึงจะกลับมาสร้างผมใหม่เป็นวงจรเช่นนี้เรื่อยไป เพียงแต่ว่าตำแหน่งที่ผมจะงอกขึ้นมาใหม่ในรูขุมขนเดิมนั้นจะอยู่ลึกลงไปกว่าเดิม อาจทำให้เส้นผมมีขนาดเล็กลงหรือบางลง นี่จึงเป็นที่มาว่าเหตุใดเมื่อคนเราอายุมากขึ้น เส้นผมจึงดูบางลงทั้งที่จริงแล้วเส้นผมมีจำนวนเท่าเดิม
โครงสร้างของเส้นผมคนเรานั้นมีโปรตีนเป็นส่วนประกอบหลัก ดังนั้นหนุ่มๆที่อยากมีผมสวยสุขภาพดีจึงควรรับประทานอาหารประเภทโปรตีน อาทิ เนื้อสัตว์ นม ไข่ และถั่วต่างๆ ในปริมาณที่เพียงพอ นอกจากนี้การเลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน บี 1 อย่างข้าวกล้อง และผักใบเขียว ยังช่วยให้คุณมีผมที่นุ่มสลวยและแข็งแรงอีกด้วย

การมีสุขภาพเส้นผมที่ดีกลายเป็นสิ่งที่ผู้ชายทุกคนปรารถนา การสระผมด้วยน้ำเย็นนั้นถือได้เป็นสิ่งที่เป็นผลดีและไม่เป็นอันตรายต่อทั้งเส้นผมและหนังศีรษะของเรา แต่การสระผมด้วยน้ำอุ่นจัดนั้นอาจจะทำให้คุณนั้นรู้สึกว่าสบายศีรษะเมื่อทำการสระผม แต่ความร้อนนั้นกลับเป็นอันตรายต่อเส้นผมและหนังศีรษะเป็นอย่างมาก เนื่องจากการที่เรานั้นทำการสระผมด้วยน้ำอุ่นจัดจะทำให้เส้นผมของคุณนั้นมีการสูญเสียน้ำมันหล่อลื่นมากเกินไป จนส่งผลกระทบต่อเส้นผมและหนังศีรษะ ส่วนการทำสีผมซ้ำๆนั้นเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เส้นผมของคุณนั้นแห้ง แข็ง กระด้าง ไม่มีชีวิตชีวา ควรเลือกให้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเหมาะสมกับสภาพผมของคุณด้วยผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็จะดูเป็นธรรมชาติมากกว่า

การเลือกใช้แชมพูและครีมนวดผมที่มีคุณภาพดีนั้นก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะว่าแชมพูและครีมนวดผมนั้นก็จะเป็นตัวที่จะช่วยในการทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะ ให้ทั้งความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่นให้แก่เส้นผม ทำให้ผมองคุณนั้นมีความเรียบลื่นเป็นประกายเงางามน่าสัมผัส และความร้อนจากไดร์เป่าผมนั้นจะทำให้เส้นผม รวมไปถึงหนังศีรษะของคุณนั้นแห้งมากจนเกินไป ถ้าหากว่าคุณนั้นจำเป็นที่จะต้องเป่าผมจริงๆให้ใช้สเปร์หรือผลิตภัณฑ์เคลือบเส้นผมเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ความร้อนนั้นไปทำลายเส้นผมให้เสียหายได้ การใช้หวีในการหวีผมนั้นก็ควรที่จะใช้หวีที่มีซี่ที่ห่างเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้ผมพันกัน และปล่อยให้ผมนั้นชื้นเล็กน้อย อย่าป่าผมจนผมนั้นแห้งสนิทจนเกินไปเพราะว่าอาจจะทำให้เส้นผมและหนังศีรษะนั้นแห้งมากจนเกินไป

6 เหตุผลเด็ด ๆ ที่หนุ่ม ๆ ควรกินเวย์โปรตีนเป็นประจำ

เวย์โปรตีน เป็นอาหารเสริมที่บรรดาผู้รักสุขภาพและผู้ชายที่ชื่นชอบการออกกำลังนิยมดื่มกันเพื่อเร่งกระบวนการเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้รวดเร็วยิ่งขึ้น แต่จริง ๆ แล้ว เวย์โปรตีนไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่เอาไว้อัพกล้ามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทว่ายังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกด้วย ซึ่งเราได้นำข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของเวย์โปรตีนจากเว็บไซต์ mensfitness.com มาฝากกันด้วย

ลดไขมันอย่างได้ผล

นักวิจัยในรัฐมินนิโซตาเผยผลการทดลองหลังจากการดื่มเวย์โปรตีนร่วมกับอาหารปกติเป็นประจำติดต่อกัน 12 สัปดาห์ ร่วมกับการควบคุมอาหารให้กินน้อยกว่าปกติวันละ 500 แคลอรี่ ปรากฏว่าร่างกายสามารถลดไขมันลงไปได้มากถึง 6.1 เปอร์เซ็นต์ และเวย์โปรตีนยังช่วยรักษาสมดุลของกล้ามเนื้อระหว่างการลดอาหารในครั้งนี้อีกด้วย

เพิ่มขนาดและพละกำลัง

ใครที่หวังจะเพิ่มพละกำลังและขนาดของกล้ามเนื้อ การดื่มเวย์โปรตีนร่วมกับการออกกำลังกายจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าแน่นอน โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเบย์เลอร์ ในรัฐเท็กซัสได้ทำการทดลองกับชายหนุ่มผู้ออกกำลังกายเป็นประจำ 19 คน โดยกลุ่มหนึ่งดื่มเวย์โปรตีนกับเคซีน อีกกลุ่มหนึ่งทานยาหลอก ปรากฏว่ากลุ่มที่ดื่มเวย์โปรตีนกับเคซีนมีมวลกล้ามเนื้อมากกว่าและมีไขมันน้อยกว่าอย่างชัดเจน ซึ่งทางนักวิจัยยังแนะนำว่าควรดื่มเวย์โปรตีนก่อนออกกำลังกาย 1 ชั่วโมง จะได้ผลดีที่สุด

ผอมลงเพราะหิวน้อยลง

ความหิวทำให้วินัยการกินของเสียไปและเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อ้วนขึ้น แต่ถ้าคุณดื่มเวย์โปรตีนรับรองได้เลยว่าจะรู้สึกหิวน้อยลงแน่ ๆ เพราะมันจะไปลดระดับฮอร์โมน เกรลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมความหิวได้ยาวนานถึง 4 ชั่วโมง ตามที่นักวิจัยในออสเตรเลียได้ทดลองไว้ ทีนี้ ก่อนคุณจะทำงานยาว ๆ หรือปาร์ตี้ก็ซดเวย์โปรตีนรองท้องก่อนได้เลยครับ

ช่วยให้คลายเครียด

หลาย ๆ คนคิดว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นทางออกที่ดีในการคลายเครียด แต่นักวิจัยจากประเทศเนเธอร์แลนด์พบว่าเวย์โปรตีนทำได้มากกว่านั้น โดยพวกเขาทำการทดลองกับตัวอย่างจำนวน 58 คน ที่ระบุว่ามีความเครียด พบว่าการดื่มเวย์โปรตีนช่วยลดอาการปวดหัวจากความเครียดและผ่อนคลายอารมณ์ได้ ดังนั้นหากคุณกำลังปวดหัวกับเรื่องอะไรบางอย่าง ลองชงเวย์โปรตีนดื่มดูสักแก้ว น่าจะช่วยแก้ปัญหาและดีต่อสุขภาพมากกว่าแอลกอฮอล์นะครับ

ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง

แม้มะเร็งไม่ใช่โรคที่จะเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ แต่หากเกิดขึ้นก็คงสร้างความลำบากให้ชีวิตไม่น้อย โดยเฉพาะผู้ที่ครอบครัวมีประวัติเคยเป็นมะเร็งมาก่อนแล้ว การหาทางป้องกันเป็นสิ่งจำเป็นมากทีเดียว ซึ่งผลการวิจัยจำนวนมากบ่งชี้ว่าเวย์โปรตีนสามารถช่วยคุณได้ในระดับหนึ่งด้วยการเข้าไปยับยั้งสารก่อมะเร็งในร่างกาย แต่ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อวางแผนการป้องกันให้ถูกต้องด้วยเช่นกัน

เสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

นักวิจัยมหาวิทยาลัยอัลเบอร์ต้า พบทางออกสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกายอย่างง่าย ๆ ด้วยการดื่มเวย์โปรตีน เพราะเวย์ช่วยยับยั้งกระบวนการสูญเสียกลูต้าไธโอนซึ่งทำหน้าที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งร่างกายมีแนวโน้มเสียกลูต้าไธโอนจากการออกกำลังกายได้มากกว่าปกติ การดื่มเวย์โปรตีนควบคู่ไปกับการออกกำลังจะช่วยแก้ปัญหาจุดนี้ได้เป็นอย่างดีนั่นเอง

ไม่น่าเชื่อเลยว่าเครื่องดื่มที่หนุ่มรักสุขภาพทั้งหลายดื่มกันเป็นประจำจะมีประโยชน์กับร่างกายมากขนาดนี้ รู้แบบนี้แล้วก็ต้องลองหาเวย์โปรตีนมาดื่มควบคู่ไปกับการออกกำลังซะแล้วล่ะ

เรื่องหลัก ๆ ที่จะทำให้คุณผู้ชายได้มีสุขภาพดีทั้งภายในและภายนอก

เรื่องหลัก ๆ ที่จะทำให้คุณผู้ชายได้มีสุขภาพดีทั้งภายในและภายนอก พุงไม่ออกหน้าร่างกายก็แข็งแรงดี เรามาดูกันในทีละข้อ

1.กินแบบผู้ชายกิน

หลายคนคงจะงงผู้ชายกินมันจะต่างจากผู้หญิงยังไง อันดับแรกเลยที่หญิงแตกต่างจากชายคือว่าพวกเธอมีระดับฮอร์โมนในร่างกายที่แตกต่างกันโดยเฉพาะในช่วงเวลาวันนั้นของเดือน การกินของพวกเธอก็ควรจะสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงภายใน แต่คุณผู้ชายมีฮอร์โมนผู้ชาย เทสโทสเตอโรนมากกว่า การกินอาหารก็ต้องการพลังงานจำนวนแคลอรี่ที่มากกว่า การที่มีฮอร์โมนมาก กล้ามเนื้อก็มาก แต่ไขมันจะน้อยกว่าผู้หญิง การกินในจำนวนที่เท่ากันผู้ชายจะเผาผลาญได้ดีกว่า ลองแวะไปดูอัตราการเผาผลาญค่า BMR ที่เราทำให้ใช้กันแบบง่าย ๆ ผู้หญิงวัยเท่ากับชายต้องการพลังงานไม่เท่ากัน

2.ออกกำลังกายแบบรอบด้าน

ผู้ชายหลายคนให้ความสนใจการออกกำลังกายเฉพาะระบบหายใจ ระบบหลอดเลือด ด้วยการวิ่งระยะไกล ขี่จักรยานหรือเล่นไตรกีฬาที่มีทั้งว่ายน้ำขี่จักรยานวิ่งมาราธอนในคราว เดียวกัน แต่แค่นั้นเรามักจะเห็นผู้ชายที่ผอมกะหร่อง ไม่มีไขมันดูแข็งแรงแต่ภายนอกดูโทรมไม่มีสง่าราศี กล้ามเนื้อไม่สวยงาม การออกกำลังกายที่เน้นแบบแอโรบิค ทำให้ปลอดภัยจากโรคหลอดเลือดได้มาก แต่คุณผู้ชายควรให้ความสมดุลในการออกกำลังกายด้านอื่นด้วย การเล่นเวท การเพิ่มกล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ทำให้มีความสมบูรณ์มาดแมนดียิ่งขึ้น 1. การวิดพื้น ไม่ต้องอธิบายกันมากส่วนใหญ่คุ้นเคยกันดี 2.โหนบาร์ อาจจะหาที่ทางยากสักหน่อย การโหน ดึงตัวขึ้นไป การแกว่งตัว เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อช่วงบน 3.เล่นเสต็ป วางเก้าอี้เตี้ย ๆ ไว้ด้านหน้า เอามือท้าวเอว ก้าวขาซ้ายขึ้นไปก่อนแล้วขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ แล้วก้าวถอยลง ทำสลับขา เป็นการเพิ่มความแข็งแรงกล้ามเนื้อขา แต่ก็มีหนุ่มบางคนที่ให้ความสนใจการออกกำลังกายเฉพาะการเล่นเวท ไม่ให้ความสำคัญทางด้านแอโรบิคเลย ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าต้องหันมาให้ความสำคัญด้านนี้ด้วย หรือบางทีชอบออกกำลังกายเบา ๆ เดินหรือแค่วิ่งเหยาะ ๆ ให้ลองเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการวิ่งเร็ว วิ่งแบบวิ่งแข่งบ้าง จะทำให้การออกกำลังกายไม่ซ้ำซากจำเจ ไม่เบื่อการออกกำลังกาย ผู้เชี่ยวชาญคนเดิมให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า อย่าได้จำเจกับการออกกำลังกายแบบเดียวนาน ๆ ขอให้เริ่มต้นลองสิ่งใหม่ ๆ ดูบ้าง อย่าได้กรอบตัวเองจนไม่กล้าทำอะไร เริ่มต้นทันที อย่าได้รีรอ

3.รักษาระดับน้ำตาลให้คงที่

การเริ่มต้นออกกำลังกายเป็นเรื่องไม่ง่ายสำหรับคนไม่เคย แต่เมื่อเราตั้งใจว่า เอาละจากวันนี้ไปจะทำให้เป็นเรื่องประจำวัน แต่ทุกครั้งที่ออกก็ทำได้ไม่เกิน 20 นาที ก็หมดแรง แสดงว่าระดับพลังงานของเรามีอยู่ต่ำ และทำให้เราเผาผลาญไขมันส่วนเกินไม่ได้ดี เพราะกว่าจะได้เข้าไปเผาของสะสมที่เกิน การออกกำลังกายต้องต่อเนื่องไปถึง 30-40 นาที การรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ดูได้จากว่า ในระหว่างวันเรามีอาการกินเร็วแล้วหิวบ่อยแค่ไหน เป็นไหมที่กินไปหยก ๆ รู้สึกหิวอีกแล้ว เป็นเพราะอาหารที่เรากินเป็นอาหารที่ให้พลังงานเร็ว ให้น้ำตาลในร่างกายเร็ว เช่น พวกขนมหวาน เครื่องดื่มหวานมัน ข้าวขาว การกินแบบนี้เราก็ต้องเติมเข้าไปบ่อย ๆ ซึ่งหากเป็นของกลุ่มเดิมเราก็หิวอยู่ตลอดวัน การป้องกันไม่ให้วงจรนี้ได้เกิดขึ้นก็คือเลือกกินอาหารที่เพิ่มระดับน้ำตาล อย่างช้า ๆ การเผาผลาญเอาไปใช้ก็จะค่อยเป็นค่อยไป กลุ่มอาหารที่ควรเลือกกินได้แก่พวกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ข้าวก็ต้องข้าวกล้อง ขนมปังต้องเป็นธัญพืช พืชที่มีเส้นใย ผลไม้ที่ไม่หวานเกินไป ถ้าควบคุมได้แบบนี้รับรองว่าหุ่นดีสุขภาพดีได้ดังใจ

4.กินแป้งกับโปรตีนให้สมดุลกัน

แต่ละวันลองคำนวณดูว่าใครชนะระหว่างแป้งกับโปรตีน เรากินอะไรเข้าไปมากกว่ากัน คิดได้แล้วยังไม่เปลี่ยนใจ ลองอ่านต่อไปอีกหน่อย การกินแป้งจำนวนมากทำให้ร่างกายได้พลังงานมากและเร็ว ร่างกายได้น้ำตาลอย่างเร็วเอาไปใช้เร็ว เหมือนที่บอกไว้ข้างต้น แต่การกินโปรตีน ทำให้ร่างกายได้พลังงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างช้า ๆ การนำไปใช้ก็ช้า การจะหมดไปต้องกินซ้ำก็ไม่บ่อยเท่า ประการสำคัญอีกอย่าง แป้งที่กินเข้าไปร่างกายจะแปลงเป็นไขมันไปสะสม ส่วนโปรตีนทำให้ตับอ่อนหลั่งฮอร์โมนกลูคากอนออกมาไปดึงไขมันที่สะสมไว้ออกมา เผาผลาญ จำกันง่าย ๆ ว่า อินซูลินออกมาทำงานก็เพราะกลุ่มแป้งที่ไม่ดี(พวกขาว ๆ ทั้งหลาย ขนมปังขาว ข้าวขาว)ส่วนกลูคากอนออกมาทำงานเผาผลาญไขมัน ด้วยการกินโปรตีนเข้าไป ผู้ชายที่มีการเผาผลาญมากเกิดจากการที่มีมวลกล้ามเนื้อมาก เหมือนเครื่องยนต์ที่มีเครื่องใหญ่ย่อมกินน้ำมันมาก แต่ถ้าเราไม่คงสภาพกล้ามเนื้อให้มากไว้ การกินเท่าเดิมก็อาจทำให้อ้วนขึ้นได้ อัตราส่วน 40-40-20 เป็นอัตราการกินคาร์โบไฮเดรต โปรตีนและไขมัน ที่ค่อนข้างสมดุล พร้อมไปกับการออกกำลังกายไปทุกส่วนทั้งระบบหลอดเลือดด้วยการวิ่งหรือจักรยาน และสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อด้วยการบริหารร่างกายไปทุกส่วน ไม่ต้องค้นคว้าหาข้อมูลจนครบด้านก่อนลงมือลงไม้ฟิตหุ่นสวย เริ่มได้ทันที ทำไปเรียนรู้ไป ทำเร็วเท่าไหร่ สุขภาพดีเท่านั้น ลองนึกภาพผู้ชายหุ่นดีไม่มีพุง กล้ามเนื้อสวย สูงสมาร์ท คนนั้นเป็นคนที่คุณเห็นในกระจก ดีกว่าจะได้แต่มองเห็นแต่คนอื่น เริ่มวันนี้ได้เลย

วิธีดีๆเพื่อช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ชายมีสุขภาพดียิ่งขึ้น

คุณผู้ชายทั้งหลายมีส่วนคล้ายเด็กอยู่เหมือนกัน ตรงที่ว่าต้องมีเทคนิคโน้มน้าวใจเสียหน่อยถึงจะยอมคล้อยตามหรือลงมือทำอะไรสักอย่าง ทั้งๆที่รู้ว่าสิ่งนั้นดีกับตัวเอง ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะอยู่ในบทบาทใด จะเป็นคุณแม่ คนรัก พี่สาว น้องสาว หรือลูกสาวของพ่อ เรามีวิธีดีๆมาบอกกัน เพื่อช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้ “ ผู้ชายของคุณ ” มีสุขภาพดียิ่งขึ้น

1. หนึ่งแก้วหลังตื่นนอน

ตื่นให้เช้าอีกสัหน่อย แล้วเตรียมน้ำเปล่าหนึ่งแก้ววางไว้บนหัวเตียงหรือในจุดที่คุณผู้ชายที่ตื่นมาแล้วมองเห็นได้ง่าย การดื่มน้ำทันทีหลังตื่นนอนนั้นดีต่อสุขภาพ ( ควรดื่มก่อนแปรงฟัน ) เพราะน้ำลายในปากจะมีแบคทีเรียที่ดีต่อลำไส้ช่วยเรื่องการขับถ่าย และยังช่วยลดความเสี่ยงเรื่องต่อมลูกหมากอักเสบ วิธีง่ายๆอย่างนี้จึงเป็นการเพิ่มโอกาสการดื่มน้ำช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดชื่น เพื่อเริ่มต้นวันใหม่ได้อย่างดี

2. อย่าพลาดอาหารเช้า

ไม่ว่าคุณจะวุ่นวายแค่ไหน ก็อย่าให้เขาพลาดมื้อเช้าเพราะการกินมื้อเช้าช่วยลดความเสี่ยงสุขภาพไปได้เยอะ ทั้งเรื่องหลอดเลือดอุดตัน โรคหัวใจ และอัลไซเมอร์ ลองดัดแปลงอาหารเช้าทำง่ายๆได้สุขภาพมาแทน เช่น แซนวิชทูน่าหรือปลากะพงอบ ไข่คนใส่มะเขือเทศ ฯลฯ หากไม่มีเวลามาก คุณอาจซื้ออาหารหรือทำเตรียมไว้ตั้งแต่ก่อนเข้านอน เช่น อบปลาแซลมอนหรือปลากะพงเพื่อเป็นไส้แซนด์วิช ต้มซุปไก่ใส่มันฝรั่งแล้วเก็บเข้าตู้เย็นก่อนกินมื้อเช้าก็นำมาอุ่นกินได้ทันที เริ่มต้นวันอย่างดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วจริงไหมคะ

3. เตรียมผลไม้ให้กินง่าย

การมีผลไม้วางใส่ตะกร้า บางทีก็ไม่เร้าใจเพียงพอให้คุณผู้ชายหยิบมากินหรอกนะคะ คุณอาจต้องหั่นเป็นชิ้นใส่กล่องเก็บไว้ในตู้เย็น หรือใส่จานเสิร์ฟหลังมื้ออาหารการอยู่ใกล้มือและกินง่ายจะช่วยให้เขากินผลไม้ได้มากขึ้น แต่ถ้าจะให้ดีลองดัดแปลงผลไม้ที่เขาชอบมาเป็นของว่าง เครื่องดื่มรูปแบบต่างๆดู เช่นสมู้ธตี้ ผลไม้ลอยแก้ว ฟรุตสลัด ฯลฯ น่าจะทำให้การกินสนุกและอร่อยยิ่งขึ้น

4. ชวนกันไปออกกำลังกาย

อย่าปล่อยให้เพลินไปกับเกมคอมพิวเตอร์ หรือคร่ำเคร่งกับหน้าที่การงานเสียจนละเลยสุขภาพ ลองเอ่ยปากชวนกันไปออกกำลังกายดูบ้าง เลือกชนิดกีฬาที่ชอบ คุณผู้ชายจะได้มีความยากเล่นมากขึ้น อาจเริ่มต้นจากกีฬาง่ายๆ อย่างเช่น วิ่งจ๊อกกิ้ง ขี่จักรยาน รวมถึงการสมัครสมาชิกสปอร์ตคลับหรือซื้ออุปกรณ์กีฬาโปรดชิ้นใหม่ให้ด้วย จะช่วยให้มีความตั้งใจออกกำลังกายเพิ่มขึ้น แต่อย่าปล่อยให้เขาไปเล่นเพียงลำพังล่ะ เพราะการมีเพื่อนไปออกกำลังกายด้วยกันนั้นได้ทั้งความสนุก กระชับความสัมพันธ์และจะได้มีสุขภาพดีกันทั้งครอบครัว

5. อย่าลืมครีมกันแดด

ไม่ใช่เรื่องรักสวยรักงามเลยค่ะ เพราะอันตรายของรังสีจากแสงอาทิตย์นั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น อาจเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งผิวหนังได้อย่างที่เราไม่รู้ตัว คุณน่าจะสรรหาครีมกันแดดชนิดที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ อาจเป็นออยล์ฟรีหรือมีส่วนผสมหลักเป็นน้ำ ( water base ) มาให้เขาใช้ อย่างน้อยจะได้ไม่สร้างความรำคาญให้ผิวหน้าจนเกินไป และช่วยป้องกันอันตรายจากแสงอาทิตย์ได้ในระดับหนึ่ง

เทคนิคการดูแลสุขภาพผิวหน้าของหนุ่ม ๆ ในปัจจุบัน

ส2

แน่นอนหนุ่ม ๆ ทุกคนตื่นมาต้องล้างหน้าแปรงฟัน แต่มีวิธีไหนที่ทำให้หน้าสะอาดได้อย่างล้ำลึกถ้าเราไม่บอกคุณจะรู้ไหมว่า เวลาที่คุณอาบน้ำอุ่นจากฝักบัวตอนเช้า ไอ้ไอน้ำที่ฟุ้งอยู่นั้นจะช่วยให้รูขุมขนคุณขยายเวลาล้างหน้าหน้าจะยิ่งสะอาดเข้าถึงทุกรูขุมขนจริงๆ สำหรับคนที่ใช้โฟมล้างหน้ามันก็มีให้เลือกหลายแบบไม่ว่าจะเป็นแบบสครับขัดๆ ถูๆ ไอ้เซลล์ผิวที่ตายแล้ว หรือคลีนเซอร์โฟมต่างๆ ควรเลือกให้ถูกกับสภาพผิวของคุณด้วยจากนั้นซับหน้าให้หมาดๆ แล้วทาครีมบำรุงตามก็ได้ โดยเฉพาะคนที่ใช้ประเภทเม็ดบีทสครับล้างหน้า เนื่องจากถ้าคุณขัดเซลล์ผิวเก่าออกไปแล้ว น้ำหล่อเลี้ยงผิวหน้าตามธรรมชาติของคุณมันจะหายไปด้วยเพราะฉะนั้น ควรทาครีมบำรุงตามด้วยจะดีกว่า ระวังนะหนุ่มคนไหนหน้าแห้งมากๆ ถ้าปล่อยไว้ไม่ดูแลหน้าจะโทรมง่าย ทำไมนะเหรอ ก็เพราะหน้าคุณขาดน้ำมันที่ช่วยหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาตินะซิ รอยย่น รอยเหี่ยว ริ้วรอยต่างๆ มันก็มาง่ายเลยล่ะ ถ้าไม่อยากแก่ก่อนวัยยิ่งควรทาครีมบำรุงทุกวัน หลังอาบน้ำเสร็จก็ทาเลยนะตอนเช้า ถ้าระหว่างวันหน้ายังแห้งอยู่ก็ทาเพิ่มได้ เช่น หลังเล่นฟิตเนสมาอาบน้ำเสร็จก็ทาไปเลย

ใต้ตาคล้ำเป็นแพนด้า แถมมีถุงใต้ตาอีกต่างหาก อย่ามาอ้างว่าอ่านหนังสือดึก ทำงานดึก หนุ่มส่วนใหญ่ที่เล่นเกมส์ ดูคลิปวีดีโอหรือมัวแต่เซิร์สหารูปสาวๆใน Picpost จนเช้า รู้ทัน กรุณาฟัง ว่าไอ้ถุงใต้ตาของคุณบางคนก็เป็นเรื่องของพันธุกรรม ซึ่งปกติผิวหนังใต้ดวงตา เป็นส่วนที่บางที่สุดในร่างกาย เราจึงเห็นเส้นเลือดตรงนั้นชัดมากๆ เมื่อไหร่ที่อายุเพิ่มถุงใต้ตาก็จะย้อยเส้นเลือดก็จะแตก รอยคลำมันก็ชัดขึ้นๆ จนเรากังวล ใครที่ไม่เคยใช้ อายครีม เลยก็ต้องทำความรู้จักกับมันบ้างเดี๋ยวนี้สำหรับผู้ชายก็มีขายเยอะแยะ แตะเบาๆ รอบดวงตา อย่าถูแรง วันละครั้งก่อนนอนโอเคเปล่า ครีมพวกนี้มันมีคาเฟอีนที่ช่วยกระชับผิวและปกปิดรอยช้ำ ส่วนผสมของเซรั่มก็จะมีวิตามิน A C และ E ช่วยคืนความชุ่มชื่นให้ผิวรอยช้ำดูจางลง แต่ถ้าคุณสูบบุหรี่จัดเลิกคิดเลย ยังไงก็ไม่ได้ผลแน่ เพราะบุหรี่เป็นตัวทำลายผิวตัวยง ยิ่งทำให้ผิวคล้ำชัดหนักกว่าเดิมครีมชนิดไหนก็เอาไม่อยู่ แต่ถ้าคิดจะป้องกันให้ถูกวิธีกลับคืนสู่สามัญคือ อย่านอนดึกจะดีกว่า พักผ่อนให้เพียงพอนอนให้สบายนั่นแหละดีสุด

ขั้นตอนง่าย ๆ การดูแลสุขภาพผิดของผู้ชายสุขภาพดี


ผู้ชายทุกคนล้วนอยากดูดีมีเสน่ห์ด้วยกันทั้งนั้น จึงไม่แปลกที่ผู้ชายสมัยนี้จะหันมาดูแลสุขภาพผิวกันมากขึ้น เพราะปัจจุบันสังคมเปลี่ยนไป สิ่งแวดล้อมเป็นพิษมากขึ้น การดูแลผิวให้มีสุขภาพดีจึงไม่ใช่เรื่องของผู้หญิงอีกต่อไป และการที่ผู้ชายจะหันมาดูแลใส่ใจในเรื่องความสวยความงามของผิวพรรณ ก็ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเกย์หรือเป็นพวกแอบจิตแต่อย่างใด เพราะถ้าเราปล่อยปละละเลยเรื่องการดูแลสุขภาพผิว เชื่อได้เลยว่าริ้วรอยแห่งวัยจะมาเยี่ยมเยียนคุณได้ง่ายและเร็วมากขึ้น

1. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิว
หนุ่มๆ หลายคนที่ชอบใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด หรือครีมบำรุงผิวไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าหรือผิวกายของแฟนหรือภรรยา นั่นเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะความแตกต่างของฮอร์โมนส่งผลให้ผิวพรรณของผู้หญิงและผู้ชายมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเรียบเนียน ความยืดหยุ่น กระชับตึง ฮอร์โมนของผู้ชายจะมีผลอย่างชัดเจนกับผิว ทำให้ผิวของผู้ชายดูแข็งแรงและหนากว่า เพราะฉะนั้นเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด หรือครีมบำรุงผิวที่มีคุณภาพไม่ดีพอ เนื้อครีมจึงไม่ซึมเข้าชั้นผิวหนังและทำให้คงความเหนียว เหนอะหนะ และก่อเกิดความมันบนใบหน้า ดังนั้นการดูแลผิวของผู้ชาย ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตเพื่อผิวผู้ชายโดยเฉพาะ และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้ถึงสภาพผิวของแต่ละคนเพื่อจะให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
2. ล้างหน้าให้สะอาด
เชื่อเถอะว่าการล้างหน้าให้สะอาดเป็นเรื่องยากสำหรับหนุ่มๆ บางคน เริ่มจาก “การล้างหน้าหลังจากการอาบน้ำทุกครั้ง” เพราะการชอบอะไรที่ง่ายๆ ของคุณผู้ชาย คือ อันไหนก่อนหลังไม่สำคัญ แต่ใครจะทราบละว่าเวลาที่คุณสระผมและใช้คอนดิชันเนอร์หลังการสระ สารเหล่านี้อาจตกค้างอยู่บนใบหน้าของคุณ บางคนแทบจะใช้แชมพูร่วมกับการล้างหน้าไปในคราวเดียวกัน ขอเตือนว่าหลีกเลี่ยงการล้างหน้าแบบประหยัดเช่นนี้ เพราะนั่นจะทิ้งสารเคมีตกค้างไว้ที่ผิวหน้าของคุณแน่นอน ที่สำคัญสำหรับหนุ่มๆ ที่ทำงานหนัก หรือเที่ยวดึก กลับมาถึงบ้านก็แทบจะเช้าแล้ว ขอแนะนำให้ล้างหน้าก่อนนอน ข้อนี้ต้องทำให้ได้ เพราะตลอดวันคุณต้องเจอทั้งมลพิษต่างๆ มากมาย พอกลับถึงบ้านก็นอนเลยยิ่งสะสมความสกปรกไปกันใหญ่
3. ผลัดเซลล์ผิวเป็นประจำ
ข้อดีของการผลัดเซลล์ผิวคือ ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วมอบความกระจ่างใสให้ผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอ การโกนหนวดของผู้ชายทุกวันก็ถือเป็นการผลัดเซลล์ผิวอย่างหนึ่ง แล้วส่วนอื่นๆ บนใบหน้าล่ะเราจะทำอย่างไร วิธีง่ายๆ ก็คือเวลาอาบน้ำเราก็ผลัดเซลล์ผิวตามใบหน้าและลำคอ ด้วยการใช้มือถูกไปมาคล้ายการขัดขี้ไคล หรือจะใช้ผลิตภัณฑ์สครับหน้า ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยทำให้การผลัดเซลล์ผิวทำได้ดีขึ้น ซึ่งเมล็ดสครับจะมีประสิทธิภาพในการขัดที่ดี ค่อยๆ ถูครีมสครับอย่างเบามือทั่วบริเวณใบหน้า ต้องถูให้เบามือ เพราะถ้าหากหนักมือไปหน่อยจะทำให้เกิดการระคายเคืองจนเกิดแผลและสิวขึ้นได้ ขัดประมาณ 3-4 นาที แล้วใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดเบาๆ จนหมด แล้วค่อยใช้น้ำเย็นล้างหน้าซ้ำอีกครั้งเพื่อปิดรูขุมขน หลังจากใช้สครับสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการเติมเต็มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว ควรจะมีการบำรุงผิวด้วยครีมบำรุง เพื่อให้ผิวคงความชุ่มชื้นเอาไว้ด้วย
4. ควรใช้ครีมกันแดด
ไม่ว่าจะช่วงนี้หรือช่วงไหนๆ บ้านเราร้อนขึ้นแดดแรงขึ้นทุกวัน ดังนั้น ครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งจำเป็นไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย เพราะครีมกันแดดจะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวของคุณหมองคล้ำ หรือเหี่ยวก่อนวัยอันควร สำหรับคุณผู้ชายมือใหม่ที่เริ่มจะหัดใช้ครีมกันแดด เราก็มีความรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับครีมกันแดดมาให้หนุ่มๆ ได้ทำความรู้จักกันก่อน ตัวย่อ “SPF” ที่เราเห็นทั่วไปในครีมกันแดดเป็นค่าชี้วัดว่าเราสามารถอยู่กลางแสงแดดได้นานแค่ไหน โดยที่ไม่รู้สึกร้อนหรือแสบบริเวณผิว เช่น ครีมกันแดดที่มี SPF 15 จะช่วยปกป้องเราจากแสงแดดได้นาน 15 เท่า และเมื่ออยู่กลางแดดมากๆ ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงขึ้น “UVA และ UVB” ถ้าเขียนไว้ว่ามี “UVA” หมายถึง ครีมกันแดดนั้นมีคุณสมบัติป้องกันกระ ฝ้า และป้องกันริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย แต่ถ้าเขียนไว้ว่ามี “UVB” หมายถึงครีมกันแดดนั้นมีคุณสมบัติป้องกันอาการแพ้ แดง แสบ และไหม้ของผิวหนัง เพียงเท่านี้หนุ่มๆ ก็สามารถเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับตัวเองได้แล้ว
5. กินอาหารที่ดีมีประโยชน์
ทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อผิวพรรณ อาหารที่อุดมด้วยวิตามินซี เช่น ผักและผลไม้เป็นอาหารบำรุงผิวชั้นเยี่ยม เราควรรับประทานผักผลไม้ และดื่มน้ำสะอาดเป็นประจำ เพราะการจะมีผิวที่ดีเกิดจากการไหลเวียนเลือดที่ดี สามารถลำเลียงอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย บำรุงผิวหนังและอวัยวะอื่นๆ ผลไม้จะช่วยทำให้ผิวหนังยืดหยุ่น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวเปล่งปลั่งสดใส และควรทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินอี เช่น ธัญพืชต่างๆ เพราะจะช่วยทำให้ผิวเรียบเนียนป้องกันแผลเป็นได้ ที่สำคัญเราควรลดอาหารประเภททอด เพราะอาหารทอดจะไปชะลอการไหลเวียนโลหิต ซึ่งจะทำให้เลือดส่งไปหล่อเลี้ยงผิวของคุณได้น้อยลง จนทำให้ผิวเสียได้
6. ออกกำลังกายเป็นประจำ
การออกกำลังกาย เป็นการนำออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ต่างๆ ภายในร่างกาย ซึ่งออกซิเจนเหล่านี้จะทำหน้าที่ต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ ยังกระตุ้นระบบไหลเวียนของเหลวในร่างกาย ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้เร็วขึ้น นำพาสารอาหารไปสู่เซลล์ผิว การออกกำลังกายจึงเป็นวิธีที่ดีที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ส่งผลให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง และมีเลือดฝาด การสูญเสียเหงื่อขณะออกกำลังกายยังเป็นการขับถ่ายสารพิษหรือของเสียออกจากร่างกาย และยังช่วยทำความสะอาดรูขุมขนที่อุดตันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อผิวและสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ควรหาเวลาออกกำลังให้สม่ำเสมอ แม้ว่าคุณผู้ชายจะไม่มีเวลาไปฟิตเนสทุกวัน แค่การเดินเร็วๆ ก็ถือเป็นการออกกำลังกายด้วยเช่นกัน

การดููแลสุขภาพ สำหรับผู้ชายให้ดุหนุ่มอยู่ตลอดเวลา

หนุ่ม ๆ ทั้งหลายถ้าอยากหล่อเฟี้ยวดูหนุ่มอยู่ตลอดเวลาล่ะก็ อย่าพลาด 5 เทคนิคนี้อย่างเด็ดขาด

1. ลด ละ เลิก สุรายาเมา

รู้หรือไม่ว่า เหล้าที่ดื่มเข้าไปจะกลายเป็นน้ำตาลสะสมในรูปไขมัน แถมยังทำให้ผู้ชายที่ดื่มจัด มีรูปร่างเหมือนถังเบียร์ หัวล้าน มีเต้านมเหมือนผู้หญิง เพราะเหล้ามีผลต่อตับ ทำให้มีการเปลี่ยนฮอร์โมนจากชายกลายเป็นหญิงมากขึ้น คนที่ดื่มหนักจะลงพุงและแก่เร็ว

2. ยิ่งแคลอรีสูง ยิ่งเสื่อมเร็ว

เมื่อกินอาหารที่มีแคลอรีสูง แน่นอนว่าร่างกายจะต้องมีการเผาผลาญมากตามไปด้วย จึงก่อให้เกิดสารอนุมูลอิสระในร่างกายเพิ่มมากขึ้น อาหารทุกอย่างที่เรากินไม่ว่าจะโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต สุดท้ายก็ย่อยสลายกลายเป็นน้ำตาล ถ้ากินหนักทุกมื้อ ย่อมทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ๆ ต่ำ ๆ ร่างกายต้องหลั่งสารอินซูลินตลอดเวลา เพื่อนำน้ำตาลไปเก็บไว้ในเซลล์ คนที่ชอบกินอาหารบุฟเฟต์ หรือชอบกินอาหารครั้งละมาก ๆ มักเสี่ยงต่อโรคเบาหวานซึ่งทำให้แก่เร็ว เพราะเซลล์เสื่อมเร็ว

3. งดกาเฟอีน

การดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนเข้าไปกระตุ้นร่างกาย ให้หลั่งสารอะดรีนาลีนอยู่ตลอด จะทำให้ร่างกายลดการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ลง ซึ่งส่งผลให้ต่อมไทรอยด์เสื่อมเร็วกว่าปกติ

4. อย่าดื่มนมมากไป กระดูกจะพรุน

ผู้ใหญ่จะไม่มีเอนไซม์ที่ใช้ในการย่อยนมเหมือนกับเด็ก เนื่องจากกรดอะมิโนบางอย่างในนม ทำให้เลือดเป็นกรด ส่งผลให้เกิดการสูญเสียแคลเซียมและแมกนีเซียมจากกระดูกไปในปัสสาวะ เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนในวัยผู้ใหญ่ ทางที่ดีควรเลือกทานแคลเซียมจากแหล่งอื่น ๆ เช่น ปลาเล็กปลาน้อย ธัญพืช หรือ เต้าหู้ แทนดีกว่า

5. ฟิตมากเกินจนใบหน้าแก่

หลายคนคงเคยเห็น หรือได้ยินมาบ้างถึงคนที่ออกกำลังกายจัด บางคนจู่ ๆ ก็เกิดหัวใจวายกะทันหัน หรือบางคนออกกำลังมากเกินจนหน้าแก่ ซึ่งเป็นเพราะร่างกายเผาผลาญอาหารเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระมากขึ้น เป็นต้นเหตุของความเสื่อมในร่างกาย ดังนั้น การออกกำลังกายแบบแอโรบิก ที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 30-45 นาทีต่อวัน ทำ 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ ถือเป็นการออกกำลังกายที่ดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป

การดูแลสุขภาพสำหรับคุณผู้ชายให้ร่างกายแข็งแรงอยู่ตลอดเวลา

เส้นผมเริ่มเปลี่ยนไป แม้จะไม่ส่งผลต่อร่างกายโดยรวม แต่เชื่อว่าเส้นผมที่หลุดร่วงไปย่อมทำให้ใจของหนุ่ม ๆ ร่วงลงถึงตาตุ่มได้แน่ โดยผู้ชายส่วนหนึ่งนั้นจะเริ่มเผยอาการตั้งแต่อายุ 30 เป็นต้นไปนั่นเอง ซึ่งหากสังเกตว่าเมื่อไหร่ที่ผมบนศีรษะของเราหลุดร่วงมากผิดปกติ ก็ควรไปพบผู้แพทย์เชี่ยวชาญเพื่อตรวจดูสาเหตุได้เลย ระวังมะเร็งต่อมลูกหมากไม่มีใครอยากเป็นมะเร็งแน่นอน และมะเร็งต่อมลูกหมากถือเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในเพศชาย โดยสถิติที่ผ่านมาพบว่า 1 ใน 6 ของผู้ชายทั้งโลกเป็นมะเร็งชนิดนี้ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะมะเร็งชนิดนี้สามารถตรวจพบและรักษาได้ง่าย ดังนั้น ควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจหามะเร็งต่อมลูกหมากอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหากครอบครัวของเรามีคนเป็นมะเร็งชนิดนี้ล่ะก็โอกาสเสี่ยงจะมีมากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่าเลยทีเดียว

หากหนุ่ม ๆ คุ้นเคยกับการทานอาหารมัน ๆ รสจัด ๆ จนกลายเป็นคนรูปร่างอวบอ้วนล่ะก็ พอถึงวัย 30 รับรองว่าจะเอาส่วนเกินเหล่านี้ออกอย่างยากลำบากมากเลยล่ะ สาเหตุหลัก ๆ เลยคือ เพราะเมตาบอลิซึม สารควบคุมการเผาผลาญและเจริญเติบโตในร่างกายลดลง และอาจมีปัจจัยความเครียดจากหน้าที่ความรับผิดชอบเข้ามาเสริมอีก เพราะฉะนั้น หากอยากเริ่มลดน้ำหนักในวัย 30 ปี ก็ต้องทำใจไว้ได้ว่ามันจะต้องยากกว่าที่ผ่านมาเยอะเลยล่ะ คุณชายในวัยนี้ มักอยู่ในช่วงเริ่มต้นมีครอบครัว หรือเริ่มไต่เต้าเป็นหัวหน้าที่เผชิญความรับผิดชอบมากขึ้น จึงไม่แปลกที่ความเครียดจะเข้ามารบกวนจิตใจ แต่อย่างไรก็ตาม การเครียดมากเกินไปไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก หนุ่ม ๆ จึงควรเริ่มหาวิธีผ่อนคลาย ดูแลจิตใจตนเองไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะความเครียดจะนำพาโรคภัยและปัญหาต่าง ๆ มากมายมาเยือนแน่นอน หลายคนที่ไม่เคยมีปัญหาสายตามาก่อนอาจคิดว่าเมื่อมองภาพต่าง ๆ แล้วพร่ามัว เกิดจากความอ่อนล้า ซึ่งไม่ใช่เสมอไป หลายคนอาจลืมไปว่าการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ ก็ส่งผลเสียต่อสายตาได้เช่นกัน รวมถึงการสูบบุหรี่ และการทำงานที่ใช้สายตามาก ๆ ด้วย จึงควรหาโอกาสพักสายตาบ้าง หรือเมื่อรู้สึกว่ามองภาพไม่ชัดเจน ให้ลองพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจวัดสายตา ซึ่งสามารถช่วยคุณได้ระดับหนึ่ง

จะทำอย่างไรให้ร่างกายแข็งแรง

ออกกำลังกายก็แข็งแรงได้

สุขภาพกับความงาม

ในการดูแลสุขภาพหรือร่างกายเราให้แข็งแรงหรือมีสุขภาพที่ดีนั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรับประทานอาหารที่เพื่อสุขภาพเพียงอย่างเดียวแต่การดูแลสุขภาพสามารถทำได้ง่ายๆด้วยการออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นทั้งคุณผู้ชายหรือผู้หญิงก็สามารถที่จะออกกำลังกายเพื่อดูแลสุขภาพของตัวเองได้หากการที่เราได้ดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายแล้วประกอบควบคู่กับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพไปด้วยก็จะได้สุขภาพที่ดีอย่างแน่นอน  ส่วนในการออกกำลังกายเราก็ควรออกกำลังอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วัน หรือถ้ารักสุขภาพหรือมีเวลาทุกวันก็ควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที